ธาตุลมเจ้าเรือน

ธาตุลมเจ้าเรือน
คือ คนที่เกิดเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน



บุคลิกลักษณะ ผิวหนังแท้หยาบกร้าน รูปร่างโปร่ง ผอมบาง ข้อกระดูกมักลั่นเมื่อเคลื่อนไหว ขี้อิจฉา ขี้ขลาด รักง่ายหน่ายเร็ว ทนหนาวไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ ช่างพูด เสียงต่ำ ออกเสียงไม่ชัดเจน ความรู้สึกทางเพศไม่ค่อยดี

เป็นคนชอบเพ้อฝันมีจินตนาการสูง จึงมักเป็นศิลปิน ในทางตรงข้าม มักเป็นคนขี้โมโหง่าย อารมณ์แปรปรวนง่ายไม่มั่นคง ไม่ตรงต่อเวลา

รสชาติอาหารที่ควรรับประทาน คือ รสเผ็ดร้อน

ตัวอย่างอาหาร
เครื่องดื่ม   น้ำขิง  น้ำตะไคร้ น้ำข่า น้ำกานพลู

ผักพื้นบ้าน ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกไทย กะทือ ดอกกระเจียว ขมิ้นชัน ชะพลู ผักไผ่ พริกขี้หนูสด สะระแหน่ ผักชีดาว ผักชีล้อม ยี่หร่า

เกร็ดความรู้
ในช่วงอายุ 32 ปีขึ้นไป มักจะมีอาการเวียนหัว หน้ามืด เป็นลมง่าย ในฤดูฝนจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุลมกำเริบ

ธาตุไฟเจ้าเรือน

ธาตุไฟเจ้าเรือน 
คือ คนที่เกิดเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม


บุคลิกลักษณะ มักขี้ร้อน ทนร้อนไม่ค่อยได้ หิวบ่อย กินเก่ง ผม ขน และหนวดอ่อนนิ่ม ผมงอกเร็ว มักหัวล้าน ผิวหนังย่น ไม่ค่อยอดทน ใจร้อน ข้อกระดูกหลวม มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง ความต้องการทางเพศปานกลาง

เป็นคนมีเหตุมีผล คล่องแคล่ว มีจิตใจเมตตาอารี มีความสามารถด้านตัดสินใจเด็ดขาด ว่องไว เชื่อมั่นในตนเองสูง ในทางตรงข้าม หงุดหงิดง่าย เครียดง่าย อ่อนไหวและเข้าใจยาก มีความอดทนต่อสรรถสิ่งรอบด้านต่ำ วู่วาม

รสชาติอาหารที่ควรรับประทาน 
คือ รสขม เย็น และจืด


ตัวอย่างอาหาร

เครื่องดื่ม 
น้ำแตงโมปั่น น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย น้ำเก็กฮวย

ผลไม้ 
แตงโม มันแกว พุทรา แอปเปิ้ล

ผักพื้นบ้าน
ผักบุ้ง ตำลึง ผักกระเฉด ผักกระสัง สายบัว ผักกาดจีน ผักกาดนา ผักกาดนกเขา มะระ ผักปรัง มะรุม ผักหนาม มะเขือยาว กุยช่าย

เกร็ดความรู้
ในช่วงอายุ 16-32 ปี มักจะหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียบ่อย เป็นคนเจ้าอารมณ์
ในฤดูร้อนจะเจ็บป่วยง่าย อาจเป็นไข้ตัวร้อนได้ง่าย เพราะธาตุไฟกำเริบ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการกินอาหารเจ

dotdot












ประโยชน์ที่ได้รับจากการกินอาหารเจ
 


สำหรับผู้ที่กินอาหารเจเป็นประจำนั้น จะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 
นั่นคือคุณค่าของอาหารเจจะส่งผลให้ผู้กินได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและ ทางจิตใจ 
ประโยชน์ทางด้านร่างกายนั้น สรุปได้ดังนี้

ทางตรง
1. ร่างกายขับถ่ายของเสียออกหมด ทำให้ไม่สารพิษตกค้างอยู่ภายใน 

สารอาหารที่มีคุณค่าในพืช ผักสด ผลไม้ช่วยทำให้การขับถ่ายและการย่อยเป็นปกติ

2. เมื่อทานเป็นประจำ โลหิตถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อย ๆ 
เซลล์ของร่างกายเสื่อมช้าลงทำให้อายุยืน ผิวพรรณผ่องใสนัยต์ 
ตาแจ่มใส ไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด สุขภาพดี

3. อวัยวะหลักภายในและอวัยวะประกอบทั้ง 5 แข็งแรง 
ทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์มีสมรรถภาพสูง 
(อวัยวะหลักภายในทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด 
อวัยวะประกอบทั้ง 5 ได้แก่ ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ 
กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี)

4. ร่างกายต้านทานต่อสารพิษได้สูงกว่าคนปกติธรรมดา 
สารพิษได้แก่ สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง 
สาร DDT ก๊าซพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล ฯลฯ 
สารอาหารในพืชผัก ช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ทนต่อการทำลายจากรังสีต่าง ๆ 
เช่น กัมมันตภาพรังสี ที่เกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ในสงคราม)

5. เมื่อกินเป็นประจำมักไม่เป็นโรครุนแรง เรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ 
ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ไขข้ออักเสบ 
โรคเกาต์ โรคเบาหวานโรคที่เกี่ยวกับระบบ ขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร 
และระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะ และลำไส้ 
โรคกระเพาะอาหารไม่ย่อย นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านร่างกาย 
อาหารเจยังส่งผลที่ดีต่อสภาพจิตใจด้วย


ทางอ้อม

1. ทำให้จิตใจสงบ เยือกเย็น สุขุม บังเกิดเมตตาจิตอย่างเต็มเปี่ยม 
อารมณ์ไม่ฉุนเฉียวไม่โกรธง่าย

2. ไม่มุ่งร้ายอาฆาตพยาบาท

3. มีสติมั่นคงไม่หวั่นต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ

4. มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงต่างสรรเสริญยินดี อวยพรให้
ไม่มีช่องทางที่วิญญาณต่ำทุกประเภทเข้าแอบแฝง
หรือทำอันตรายใด ๆ ได้


การกินเจนั้นเป็นความเชื่อและความศรัทธาของมนุษย์แต่ละคนว่าควรจะต้อง 
ปฏิบัติตนอย่างไรในการดำรงชีวิตการกินอยู่และผลของการปฏิบัติจะส่งผลดีต่อตนเอง
อย่างไร แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเชื่อและศรัทธาเหมือนกันหมด 
จะเชื่ออะไร เชื่ออย่างไร และปฏิบัติอย่างไรขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเรา 
ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความเชื่อ ความศรัทธาและการปฏิบัติต่าง ๆ 
จะต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งต่อตนองและต่อผู้อื่นด้วย

จุดประสงค์หลักของผู้กินเจ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประการดังนี้

1. กินเพื่อสุขภาพ
อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวิต เอกินติดต่อกันช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกาย

เกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะ สมดุลสามารถขับพิษของเสียต่าง ๆ 
ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ 
ทั้งนี้ผู้ทานเจจะต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่และดื่มน้ำให้เพียงพอ

2. กินด้วยจิตเมตตา
เนื่องจากอาหารที่เราทานอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ 

ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ย่อมไม่อาจทานเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจ 
และที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา

3. กินเพื่อเว้นกรรม
ผู้ที่เข้าใจย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่า เพื่อเอาเลือดเนื้อของผู้อื่น

มาเป็นของเรา เป็นการสร้างกรรมเกี่ยวกับการฆ่าโดยตรง 
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่า

บางท่านอาจจะเคยคิดหรือเคยได้ยินมาบ้างว่า กินแต่อาหารเจจะทำให้
เป็นโรคขาดอาหาร แต่ข้อมูลทางการแพทย์กลับยืนยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น 
คนที่กินอาหารเนื้อหรือคนที่กินเจก็มีสิทธิ์เป็นโรคขาดอาหารได้เท่ากัน 
สาเหตุ สำคัญของโรคขาดอาหารในคนทั้ง 2 กลุ่ม ก็คือ การกินอาหารที่ไม่ถูกหลัก 
บริโภคอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต แป้งและน้ำตาล โปรตีน 
ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ เป็นเหตุให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ 
ไม่ครบถ้วนตามที่ตนชอบ โดยไม่คำนึงถึงคุณประโยชน์ที่จะได้จากการกินอาหารนั้น ๆ

คนกินเจรู้จักวิธีดัดแปลงแปรรูปธัญพืชในธรรมชาติให้ได้มาซึ่งโปรตีน เราจะพบเห็น
ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเมล็ดถั่วเหลืองมากมายหลาย ชนิด เช่น น้ำนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) 
เต้าหู้ขาว เต้าหู้เหลือง เต้าเจี๊ยว น้ำมันถั่วเหลือง ซีอิ้ว ฟองเต้าหู้ ฯลฯ 
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งโปรตีนอันอุดมและมีคุณค่าสูงยิ่ง

ที่สำคัญมีผลวิจัยออกมาแล้วว่า แหล่งโปรตีนที่มาจากพืชมีมากกว่าเนื้อสัตว์อีกด้วย !!!



http://www.foodtechproducts.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88.html